วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การจัดการเรียนการสอน แบบ BBL (Brain Based Learning)

BBL (Brain Based Learning) คือ การเรียนรู้ที่ใช้โครงสร้างและหน้าที่ของสมองเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้โดยไม่สกัดกั้นการทำงานของสมอง แต่เป็นการส่งเสริมให้สมองได้ปฏิบัติ
หน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุดภายใต้แนวคิดที่ว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกคนมีสมองพร้อมที่จะเรียนรู้มาตั้งแต่กำเนิด 
โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด - 10 ปี โดยมีนักวิจัย Regate และ Geoffrey Caine นักวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสมองเป็นหลัก  ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนที่มีความสัมพันธ์กับสมองไว้ดังนี้
 
     1.สมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในร่างกายของคนเราเพราะการที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ จะต้องอาศัยการทำงานของสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานของ
การรับรู้ รับความรู้สึกจากประสาทสัมผัส ได้แก่ ตาทำให้มองเห็นภาพ หูทำให้ได้ยินเสียง จมูกทำให้ได้กลิ่น ลิ้นทำให้ได้รับรส และผิวกายทำให้เกิดการสัมผัส
     2.สมองกับการเรียนรู้สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการพัฒนาของอวัยวะทั้งหมดของร่างกายซึ่งจะรวมถึงการคิด การเรียนรู้ การจำและพฤติกรรมของมนุษย์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนควรจะมีความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของสมองเพื่อจะได้วางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่กระตุ้นให้สมองคิดและทำงานแบบท้าทายยั่วยุมากที่สุดผู้เรียนได้คิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและเรียนรู้เต็มตามศักยภาพเป็นรากฐานไปสู่การเป็นคนดี คนเก่งและมีความสุขในการดำรงชีวิตและเมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเยาวชนพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป
     3.การเรียนรู้มีมาแต่กำเนิดในการเรียนรู้ของบุคคลเรานั้นจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีชีวิตและเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดนั้นจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเป็นการเรียนรู้โดยประสบการณ์ตรง
     4.รูปแบบการเรียนรู้ของบุคคลผู้เรียนในห้องเรียนหนึ่งๆ มักจะมีผู้ถนัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของตนครูจึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกรูปแบบอย่างเสมอภาคกันเพื่อให้ผู้เรียนมีความสนุกสนานและเกิดความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัดรวมทั้งยังมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่นๆ ที่ตนไม่ถนัดอีกด้วย
     5.ความสนใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ความสามารถพิเศษของมนุษย์แบ่งออกเป็น 8 ด้าน ด้วยกัน มนุษย์ย่อมมีความแตกต่างระหว่างบุคคลแต่ละคนมักจะมีความเก่งไม่เหมือนกัน ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการพัฒนาตนเองโดยเริ่มจากรู้จักตนเอง รู้จุดเด่น จุดด้อย ค้นหาวิธีการพัฒนาความเก่งให้แก่ตนเองที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
    6.สมองมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ สมองของคนเราแบ่งออกเป็น 2 ซีก คือซีกซ้ายกับซีกขวาสมองทั้งสองด้านมีความสัมพันธ์กัน สมองมีหน้าที่ ควบคุมการรับรู้ การคิด การเรียนรู้และการจำควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย และควบคุมความรู้สึกและพฤติกรรม
    7.การเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจสามารถรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสมองจะซึมซับข้อมูลที่บุคคลมีความสนในเรื่องนั้นอยู่แล้วเชื่อมโยงกับข้อมูลความรู้ใหม่ ประสานข้อมูลความรู้เข้าด้วยกัน ซึ่งหมายความว่าการเรียนรู้ของมนุษย์จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อมีการเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับการจัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง
    8.การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งในแบบที่มีจุดมุ่งหมายและไม่ได้ตั้งใจ การเรียนรู้ของคนส่วนใหญ่มักเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้จากสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ในสถานการณ์จริง เช่น ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่โดยไม่ได้คิดในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อน โดยอาศัยประสบการณ์เดิมของแต่ละบุคคลในการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
    9.การเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการสร้างความเข้าใจการเรียนรู้ที่ดีเกิดจากกระบวนการที่สร้างความเข้าใจและให้ความหมายกับสิ่งที่รับรู้มา มีการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิตจริงสอน/แนะนำบนพื้นฐานความรู้ประสบการณ์และทักษะที่มีอยู่เดิมของผู้เรียน
    10.การเรียนรู้เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นภาษาแรกของมนุษย์เราถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลายด้วยคำศัพท์และไวยกรณ์ถูกเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ภายในของบุคคลที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอกการเรียนรู้คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้เซลล์สมองจะเกิดมีการเชื่อมต่ออย่างสูงสุดเมื่อถูกกระตุ้นให้เผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้  โดยผ่านกระบวนการเล่นอย่างสนุกสนานและมีความสุขปราศจากความเครียดเพราะความเครียดเป็นสิ่งที่บั่นทอนการเรียนรู้ของผู้เรียนได้สมองของบุคคลมีความเท่าเทียมกันมนุษย์ทุกคนมีระบบสมองที่เหมือนกันถึงแม้ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแตกต่างกันในด้านความรู้ความถนัดที่มีอยู่เดิมตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคนแต่เราสามารถเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน



แนวทางการจัดการเรียนการสอนตามหลัก BBL

      1.การจัดการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงและถาวรนั้นจะต้องจัดให้ครบองค์ประกอบทั้งส่วนได้แก่ การรับรู้ การบูรณาการความรู้ และการประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการเชื่อมโยงความรู้สู่การปฏิบัติจริงในวิถีชีวิต
      2.ครูผู้สอนจะต้องมีข้อมูลและรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลคิดและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความถนัด/ความสามารถหรือความเก่งให้เก่งมากยิ่งขึ้น  รวมทั้งการพัฒนาด้านอื่น ๆ อีกให้มีความเก่งหลาย ๆ ด้าน  เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความสามารถหรือความเก่งสู่สาธารณชน  โดยอาจจัดเวทีให้แสดงอย่างอิสระ
      3.การจัดการเรียนการสอนที่ดี  ครูต้องมีความเข้าใจทักษะที่เกี่ยวโยงกับความสามารถพิเศษของสมองแต่ละซีก  สมองซีกซ้ายสั่งการทำงานเกี่ยวกับ  คำ  ภาษา  ตรรก  ตัวเลข/จำนวน  ลำดับ  ระบบ  การคิดวิเคราะห์  และการแสดงออกเป็นต้น   สมองซีกขวาจะสั่งการเกี่ยวกับ  จังหวะ  ดนตรี  ศิลปะ  จินตนาการ  การสร้างภาพ  การรับรู้  การเห็นภาพรวม  ความจำ  ความคิดสร้างสรรค์  เป็นต้น
      4.ควรจัดเนื้อหาที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกมิติของชีวิตมนุษย์  กระบวนการเรียนรู้มีลักษณะหลากหลายร่วมกันในลักษณะ  ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง  แหล่งการเรียนรู้หลากหลาย  เช่น  เรียนรู้จากสื่อธรรมชาติ  จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่  จากแหล่งงานอาชีพของชุมชน  จากการค้นคว้าทางเทคโนโลยี  ฯลฯ
      5. ในกระบวนการเรียนรู้นั้น  ขณะที่ผู้เรียนเรียนรู้นั้นอาจเป็นแค่การรับรู้  แต่ยังไม่เข้าใจ  ความเข้าใจอาจเกิดขึ้นภายหลังจากที่ผู้เรียนสามารถมองเห็นถึงความหมายและความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันถึงสิ่งต่าง ๆ  ที่ตนเองรับรู้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย  ในระดับที่สามารถอธิบายเชิงเหตุผลได้  ซึ่งบางครั้งการสอนในชั้นเรียนเมื่อจบลงบางบทเรียนไม่สามารถทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้  เนื่องจากการสอนนั้นไม่สอดคล้องกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน
       6. บางครั้งการจำเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์  แต่การสอนที่เน้นการจำไม่ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้และบางครั้งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความเข้าใจ  ถ้าครูไม่ได้ศึกษาลีลารูปแบบการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละประเภท  ว่ามีความชื่นชอบ  ความถนัด  วิธีการเรียนรู้  หลักการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ   และจัดกิจกรรมการสอนให้สอดคล้องกับผู้เรียนแต่ละประเภท จะส่งผลต่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
      7.ครูจำเป็นต้องใช้กิจกรรมที่เป็นสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน  ประกอบด้วย  การสาธิต  การทำโครงงาน  ทัศนศึกษา  การรับรู้ประสบการณ์ด้วยการมองเห็นของจริง  การเล่าเรื่อง  ละคร  และการมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนหลาย ๆ ประเภท  การเรียนแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษาสามารถเรียนรู้ได้ในกระบวนการโดยผ่านเรื่องหรือการเขียน
     8.ควรสร้างสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยเพื่อ  การเรียนรู้  โดยผ่านการเล่นแบบท้าทาย  การเสี่ยง  ความสนุกสนาน  เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เกิดการเรียนรู้  การถูกทำโทษอันเนื่องมาจากความผิดพลาดจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้  ครูจึงไม่ควรลงโทษผู้เรียน
ในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์แวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้
     9.ผู้เรียนมีความแตกต่างกันเกี่ยวกับความสามารถทางสติปัญญา  ความสามารถความเก่งของมนุษย์  คือ  ทฤษฎีพหุปัญญา  ความเป็นคนเก่งคืออะไร  มีคำตอบมากมายหลายรูปแบบ  แต่สรุปรวมได้ว่า  คนเก่งคือผู้มีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะด้าน  หรือหลาย ๆ ด้าน  ที่แสดงออกถึงความสามารถได้อย่างเป็นที่ประจักษ์
  

เอกสารเรียนรู้เพิ่มเติม การจัดการเรียนรู้แบบ BBL (Brain Based Learning)

โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี  Regate และ Geoffrey Caine นักวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสมองเป็นหลัก  ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนที่มีความสัมพันธ์กับสมองไว้ดังนี้..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/427696
Brain Based Learning คือ การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์  โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี  Regate และ Geoffrey Caine นักวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสมองเป็นหลัก  ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนที่มีความสัมพันธ์กับสมองไว้ดังนี้
1. สมองเป็นกระบวนการคู่ขนานสมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา  เพราะการที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ  ได้นั้นจะต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานของ
การรับรู้  รับความรู้สึกจากประสาทสัมผัส  ได้แก่  ตาทำให้เห็น  หูทำให้ได้ยิน  จมูกทำให้ได้กลิ่น  ลิ้นทำให้ได้รับรส  และผิวกายทำให้เกิดการสัมผัส
2. สมองกับการเรียนรู้สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว  แต่จะเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการ
พัฒนาของอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย  ซึ่งจะรวมถึงการคิด  การเรียนรู้  การจำ  และพฤติกรรมของมนุษย์  มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนควรจะมีความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของสมอง  เพื่อจะได้วางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่กระตุ้นให้สมองคิดและทำงานแบบท้าทาย  ยั่วยุมากที่สุด  ผู้เรียนได้คิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน  ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ  เป็นรากฐานไปสู่การเป็นคนดี  คนเก่งและมีความสุขในการดำรงชีวิตและเมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเยาวชนพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป
3.  การเรียนรู้มีมาแต่กำเนิด              ในการเรียนรู้ของบุคคลเรานั้นจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีชีวิต  และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดนั้นจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเป็นการเรียนรู้โดยประสบการณ์ตรง
4.  รูปแบบการเรียนรู้ของบุคคล ผู้เรียนในห้องเรียนหนึ่ง ๆ มักจะมีผู้ถนัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของตน  ครูจึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกรูปแบบอย่างเสมอภาคกัน  เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนุกสนานและเกิดความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด  รวมทั้งยังมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ  ที่ตนไม่ถนัดอีกด้วย
5.  ความสนใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ ความสามารถพิเศษของมนุษย์  แบ่งออกเป็น  8  ด้านด้วยกัน  มนุษย์ย่อมมีความแตกต่างระหว่างบุคคล  แต่ละคนมักจะมีความเก่งไม่เหมือนกัน  ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการพัฒนาตนเอง  โดยเริ่มจากรู้จักตนเอง  รู้จุดเด่น  จุดด้อย  ค้นหาวิธีการพัฒนาความเก่งให้แก่ตนเองที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
6.  สมองมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ สมองของคนเราแบ่งออกเป็น  2  ซีก  คือซีกซ้ายกับซีกขวา  สมองทั้งสองด้านมีความสัมพันธ์กัน  สมองมีหน้าที่  ควบคุมการรับรู้  การคิด  การเรียนรู้และการจำ  ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย  และควบคุมความรู้สึกและพฤติกรรม
7.  การเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจสามารถรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสมองจะซึมซับข้อมูลที่บุคคลมีความสนในเรื่องนั้นอยู่แล้ว  เชื่อมโยงกับข้อมูลความรู้ใหม่  ประสานข้อมูลความรู้เข้าด้วยกัน  ซึ่งหมายความว่า  การเรียนรู้ของมนุษย์จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น  เมื่อมีการเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับการจัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง
8.การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งในแบบที่มีจุดมุ่งหมายและไม่ได้ตั้งใจ การเรียนรู้ของคนส่วนใหญ่มักเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้จากสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ  สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ในสถานการณ์จริง  เช่น  ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่โดยไม่ได้คิดในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อน  โดยอาศัยประสบการณ์เดิมของแต่ละบุคคลในการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
9.  การเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการสร้างความเข้าใจ การเรียนรู้ที่ดีเกิดจากกระบวนการที่สร้างความเข้าใจ  และให้ความหมายกับสิ่งที่รับรู้มา  มีการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิตจริง  สอน/แนะนำบนพื้นฐานความรู้  ประสบการณ์และทักษะที่มีอยู่เดิมของผู้เรียน
10.  การเรียนรู้เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ภาษาแรกของมนุษย์เราถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลาย  ด้วยคำศัพท์และไวยกรณ์  ถูกเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ภายในของบุคคลที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอก  การเรียนรู้คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้เซลล์สมองจะเกิดมีการเชื่อมต่ออย่างสูงสุด  เมื่อถูกกระตุ้นให้เผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้  โดยผ่านกระบวนการเล่นอย่างสนุกสนาน  และมีความสุข  ปราศจากความเครียด  เพราะความเครียดเป็นสิ่งที่บั่นทอนการเรียนรู้ของผู้เรียนได้สมองของบุคคลมีความเท่าเทียมกันมนุษย์ทุกคนมีระบบสมองที่เหมือนกัน  ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแตกต่างกันในด้านความรู้ความถนัดที่มีอยู่เดิม  ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคน  แต่เราสามารถเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/427696
คือ การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์  โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี  Regate และ Geoffrey Caine นักวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสมองเป็นหลัก  ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนที่มีความสัมพันธ์กับสมองไว้ดังนี้
1. สมองเป็นกระบวนการคู่ขนานสมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา  เพราะการที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ  ได้นั้นจะต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานของ
การรับรู้  รับความรู้สึกจากประสาทสัมผัส  ได้แก่  ตาทำให้เห็น  หูทำให้ได้ยิน  จมูกทำให้ได้กลิ่น  ลิ้นทำให้ได้รับรส  และผิวกายทำให้เกิดการสัมผัส
2. สมองกับการเรียนรู้สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว  แต่จะเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการ
พัฒนาของอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย  ซึ่งจะรวมถึงการคิด  การเรียนรู้  การจำ  และพฤติกรรมของมนุษย์  มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนควรจะมีความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของสมอง  เพื่อจะได้วางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่กระตุ้นให้สมองคิดและทำงานแบบท้าทาย  ยั่วยุมากที่สุด  ผู้เรียนได้คิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน  ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ  เป็นรากฐานไปสู่การเป็นคนดี  คนเก่งและมีความสุขในการดำรงชีวิตและเมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเยาวชนพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป
3.  การเรียนรู้มีมาแต่กำเนิด              ในการเรียนรู้ของบุคคลเรานั้นจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีชีวิต  และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดนั้นจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเป็นการเรียนรู้โดยประสบการณ์ตรง
4.  รูปแบบการเรียนรู้ของบุคคล ผู้เรียนในห้องเรียนหนึ่ง ๆ มักจะมีผู้ถนัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของตน  ครูจึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกรูปแบบอย่างเสมอภาคกัน  เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนุกสนานและเกิดความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด  รวมทั้งยังมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ  ที่ตนไม่ถนัดอีกด้วย
5.  ความสนใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ ความสามารถพิเศษของมนุษย์  แบ่งออกเป็น  8  ด้านด้วยกัน  มนุษย์ย่อมมีความแตกต่างระหว่างบุคคล  แต่ละคนมักจะมีความเก่งไม่เหมือนกัน  ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการพัฒนาตนเอง  โดยเริ่มจากรู้จักตนเอง  รู้จุดเด่น  จุดด้อย  ค้นหาวิธีการพัฒนาความเก่งให้แก่ตนเองที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
6.  สมองมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ สมองของคนเราแบ่งออกเป็น  2  ซีก  คือซีกซ้ายกับซีกขวา  สมองทั้งสองด้านมีความสัมพันธ์กัน  สมองมีหน้าที่  ควบคุมการรับรู้  การคิด  การเรียนรู้และการจำ  ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย  และควบคุมความรู้สึกและพฤติกรรม
7.  การเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจสามารถรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสมองจะซึมซับข้อมูลที่บุคคลมีความสนในเรื่องนั้นอยู่แล้ว  เชื่อมโยงกับข้อมูลความรู้ใหม่  ประสานข้อมูลความรู้เข้าด้วยกัน  ซึ่งหมายความว่า  การเรียนรู้ของมนุษย์จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น  เมื่อมีการเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับการจัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง
8.การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งในแบบที่มีจุดมุ่งหมายและไม่ได้ตั้งใจ การเรียนรู้ของคนส่วนใหญ่มักเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้จากสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ  สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ในสถานการณ์จริง  เช่น  ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่โดยไม่ได้คิดในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อน  โดยอาศัยประสบการณ์เดิมของแต่ละบุคคลในการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
9.  การเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการสร้างความเข้าใจ การเรียนรู้ที่ดีเกิดจากกระบวนการที่สร้างความเข้าใจ  และให้ความหมายกับสิ่งที่รับรู้มา  มีการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิตจริง  สอน/แนะนำบนพื้นฐานความรู้  ประสบการณ์และทักษะที่มีอยู่เดิมของผู้เรียน
10.  การเรียนรู้เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ภาษาแรกของมนุษย์เราถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลาย  ด้วยคำศัพท์และไวยกรณ์  ถูกเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ภายในของบุคคลที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอก  การเรียนรู้คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้เซลล์สมองจะเกิดมีการเชื่อมต่ออย่างสูงสุด  เมื่อถูกกระตุ้นให้เผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้  โดยผ่านกระบวนการเล่นอย่างสนุกสนาน  และมีความสุข  ปราศจากความเครียด  เพราะความเครียดเป็นสิ่งที่บั่นทอนการเรียนรู้ของผู้เรียนได้สมองของบุคคลมีความเท่าเทียมกันมนุษย์ทุกคนมีระบบสมองที่เหมือนกัน  ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแตกต่างกันในด้านความรู้ความถนัดที่มีอยู่เดิม  ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคน  แต่เราสามารถเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/427696

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น